พอถึงเวลาที่จบพันธะการศึกษา ได้เดินไปเอาใบกระดาษประกาศปริญญา
ความรู้ปรัชญาและ การเมีอง จากเจ้าหน้าที่ธุรการด้วยความพอใจ
นำไปใช้หางาน และได้งานกินเงินเดือนจากภาษีประชาชน เป็นคนภาครัฐ
และตั้งใจทำงานเพื่อประ ชาชน แต่อยู่ไปทำไป ความตั้งใจถูกทำลาย
หวังให้ประชาชนเป็นเจ้านาย แต่ทำไม่ได้ เพราะถูกบังคับครอบไว้ให้เป็นนายประชาชน
เราไม่ใช่คนในกรอบ เราไม่ใช่ควายในคอก จึงลาออกไปต่างแดนไกล หลายประเทศ ในยุโรป
เอเซีย จีนแผ่นดินใหญ่ ไปจนถึงนิวซีแลนด์ ๓-๔ ปีวนเวียนไปมา
กลับเมืองไทย ในสไตล์คนออฟฟิส อยู่หลายบริษัท ส่วนมากต่างชาติ
ถนัดกับงาน Risk Management, and Production TV.Programs
จนในที่สุดได้ตกผลึกความคิดชีวิต กับความตาย และการเตรียมตัวก่อนตาย
โดยที่เราไม่ต้องการจัดการงานใดๆทั้งสิ้น นอกจากจัดหาโลงศพไม้ธรรมดา
และสถานที่เผาไหม้ที่สมบูรณ์ ปลอดมลพิษ การสวดพิธีกรรมใดๆไม่จำเป็น
มีเพียงนักบวขอาสาบางรูปที่มีจิตเมตตาสูง สวดสงเคราะห์ให้
และควรจะต้องจัดทำให้เสร็จสิ้นทั้งหมดภายในวันเดียวเป็นดีที่สุด
สิ่งที่ไม่ดำเนินกิจกรรมในงานศ พคือ
- ไม่มีรับเงินช่วยงานแต่อย่างใด
- ไม่มีอาหารให้กิน ยกเว้นนำดิ่ม นำเย็นปกติ จัดให้ได้
- ไม่ต้องมีคนมางานศพ เน้นเฉพาะ คนคุ้นเคยสนิทจริงใจเท่านั้น
- ไม่มีการถ่ายภาพใดๆทั้งสิ้นแต่อ่านบทกวีได้ทุกแบบให้วิญญาณฟังสัมผัส สบาย สบาย
- ไม่มีของชำร่วยทุกประเภท
- การจัดดอกไม้ให้มีเพียงเล็กน้อย พองาม ดูเป็นการเรียบง่ายจริงๆ